ก่อนจะมีบ้านสักหลัง

ก่อนที่เจ้านกจะสร้างบ้านสักหลังนั้นพวกมันก็ต้องมีเรื่องให้คำนึงไม่ต่างกับคนเลยนะ  เพราะกว่าที่พวกมันจะสร้างบ้านขึ้นมาก็จะต้องดูเลทำเลที่ตั้งก่อนว่ามีนกเจ้าถิ่นอยู่หรือเปล่า ชุมชนแถวนั้นนกอยู่อย่างแออัดไหม มีอาหารเพียงพอสำหรับครอบครัวของมันหรือไม่ รวมทั้งช่วยให้ความอบอุ่นแก่ไข่และลูกนก

และ สิ่งสำคัญคือ ต้องปลอดภัยจากศัตรูและสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมาะสม โดยเลือกสร้างรังในตำแหน่งที่ศัตรูเข้าถึงได้ยากที่สุด

รังนกทำมาจากอะไรกันนะ

ส่วนใหญ่รังนก มักจะทำจากชิ้นส่วนต่างๆของต้นไม้เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ หรือเยื่อไม้ แต่บางตัวที่อยู่ใกล้ๆเมืองนั้นก็รู้จักประยุกต์เอาเชือกฟางมาใช้แทน เมื่อนกทั้งหลายทำรังเสร็จ พวกมันอาจนำขนนกหรือขนสัตว์มารองให้พื้นรังนุ่ม

แต่บางสายพันธ์นั้นสร้างรังด้วยน้ำลาย

คุ้นๆไหม.. เจ้านกนางแอ่นไงที่ใช้น้ำลายของมันในการสร้างรังของมันนั่นเอง

บ้านของเรา รังของเรา

บ้านของนกแต่ละชนิดก็มีรูปแบบแตกต่างกัน เจ้านกส่วนใหญ่นั้นก็นำกิ่งไม้มาสานกันอย่างง่าย แต่บางตัวก็อยากสร้างของมันให้อยู่ได้นานๆก็จะสร้างอย่างปราณีต

มาดูกันดีกว่าว่าบ้านของเจ้านกแต่ละตัวเป็นอย่างไรบ้าง

นกกระจิบนำใยแมงมุมมาเย็บติดกับใบไม้เพื่อให้อยู่คงทนนาน

นกพญาปากกว้าง นกกินปลี พวกนกน้ำ เช่น นกเป็ดฝี นกอีแจว พวกนี้อาจจะชอบบ้านแบบรกรุงรังเสียหน่อย เพราะพวกมันนำพืชน้ำมาวางสุมกันให้เป็นรังแค่นั้นเอง

แต่ก็มีบางส่วนนะที่ทำรังเป็นโพรง

นกหัวขวาน นกโพระดกใช้ปากเจาะต้นไม้จนเป็นโพรงเพื่อทำรัง

นกกะเด็นใช้ปากขุดดินริมตลิ่งเป็นโพรงลึกเข้าไปเพื่อวางไข่

บ้านหลังเล็กๆของเจ้านกเหล่านี้กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ทะเลทรายเวิ้งว้าง ภูเขาที่สูง ป่าดิบที่แสนชุ่มชื้น ธารน้ำที่ไหลเย็น แต่ก็ยังอยู่ภายใต้บ้านใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่าโลก นั่นเอง

ชาวเผ่านก

ถ้าเปรียบนกเป็นผู้คน แต่ละสายพันธ์ก็เท่ากับแต่เผ่าแล้วล่ะก็ ชนเผ่าของนกจะมีมากถึง 8,800 –9,800 ชนเผ่า(ชนิด)เลยทีเดียว หากเราจะลองแบ่งย่อยแบบใหญ่ๆยังจะต้องดูลักษณะด้านต่างๆของนก ซึ่งต้องสังเกตกันจากหลายๆสิ่งเลยทีเดียว
 

1. แบ่งตามขนาดตัวและรูปร่าง โดยดูว่านกที่พบว่ามีขนาดเท่าใด โดยเปรียบเทียบกับนกที่รู้จักดีอยู่ก่อนแล้ว เพื่อกะขนาดของนกที่เห็น
   
    
2. แบ่งตามรูปแบบของปีก และหาง หางของนกตัวนั้นมีขนาดสั้นหรือยาว แล้วขนหางเหล่านั้นเป็นเว้าหรือเป็นแฉก หรือว่าตัดตรงๆ ก่อนจะมาดูกันว่าปีกของมันว่า ปลายปีกของมันนั้นแหลมหรือกลม
   
    
3. แบ่งจากปาก เพียงแค่เรามองปากเราจะสามารถบอกได้เลยว่าเจ้านกตัวนี้เป็นนกแบบไหน เช่น ถ้าเป็นนกกระยาง นกที่กินปลาเป็นอาหารก็จะมีปากที่แหลมยาวตรง นกที่กินเมล็ดพืชจะมีปากสั้นแข็งแรง ส่วนสัตว์ปีกเจ้าเวหาอย่างเจ้าเหยี่ยวนั้นมีปากงุ้มแหลมไว้ฉีกเหยื่อนั่นเอง นอกจากรูปร่างแล้วขนาดและสีของปากก็ยังใช้จำแนกชนิดได้ด้วย
   
    
4. แบ่งจากสีและลายบนตัวนกตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก วงแหวนรอบตา สีของปาก สีอ่อนหรือเข้ม บริเวณส่วนล่างลำตัวสังเกตสีของท้อง แถบหรือลายขีดบนอก สีของขา ด้านบนลำตัว ลายจุด ขีด หรือแถบทุกส่วนมีผลต่อการแบ่งสายพันธ์ทั้งนั้น
   
    
5. สุดท้ายแบ่งตามลักษณะพฤติกรรม นกแต่ละชนิดมีท่าทางการแสดงออกและพฤติกรรมแตกต่างกัน ซึ่งสามารถใช้ช่วยจำแนกชนิดนกได้ เช่นท่าเกาะพัก ว่าเจ้านกนั้นเกาะในท่าตรงตั้งฉากหรือขยับตัวไปมา ชอบแกว่งหางหรือกระดกหางขึ้นลงอยู่เสมอ หรือชอบรำแพนหาง
    

ที่อธิบายมาอาจจะดูไม่ค่อยชัด ลองมาดูเจ้านกเพนกวิน ถึงจะชื่อขึ้นต้นว่าเพนกวินเหมือนกัน แต่พวกมันมีญาติถึง 17 สายพันธ์เลยทีเดียว


 

สัตว์แต่ละชนิดก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป มีสังคม มีบ้าน มีพื้นที่เป็นของตัวเอง เช่นบ้านของเหล่านกทั้งหลายคือท้องฟ้า บ้านของเจ้าตัวตุ่นคือใต้พื้นดิน หรือขั้วโลกก็เป็นบ้านพักของเจ้าหมีขั้วโลกตัวขาว ซึ่งแต่ละพื้นที่เจ้าสัตว์ทั้งหลายก็มีลักษณะแตกต่างกันไปด้วย เรามาทำเคาะประตูบ้านแต่ละหลัง มาทำความรู้จักกับสัตว์ในบ้านแต่ละหลังกันเถอะว่าบ้านแต่ละหลังนั้นมีสมาชิกเป็นใครบ้างแล้วพวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านเหล่านั้นอย่างไรกันบ้าง

บ้านบนฟ้าสีคราม

บ้านบนท้องฟ้าคงจะไม่พ้นเจ้านกที่อาศัยการโผบินอยู่บนฟ้าตลอดชีวิตของมัน พวกนกนั้นมีร่างกายคล้ายกับคนเรา ก็คือมีกระดูกกลางสันหลัง เป็นสัตว์เลือดอุ่น  แต่ที่ต่างออกไปก็คือเจ้าพลเมืองท้องฟ้านั้นมีปีกและมีกระดูกภายในตัวที่มีน้ำหนักเบามากเป็นพิเศษสำหรับใช้โบยบินบนท้องฟ้าและออกลูกเป็นไข่ก่อนที่จะฟักออกมาเป็นตัวนั่นเอง

บล็อคหน้าหน้าเราจะมาคุยเรื่องราวแบบ นกนก กันต่อ มาดูกันดีกว่าว่าเจ้านกนั้นจริงๆแล้วมีกี่สายพันธ์กันบ้างแล้วพวกมันใช้ชีวิตกันอย่างไร

ทำความรู้จักกับน้องหอยทาก

รู้จักหอยทากกันไหมคะ... ใช่แล้วค่ะ เจ้าสัตว์ที่มีลำตัวยืดหยุ่น และแบกบ้านไปทุกๆที่นั่นล่ะค่ะ จริงแล้วมันเป็นสัตว์ที่แสนพิเศษมากอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

ตรงไหนนะเหรอคะ

ก็... ตรงที่มันสามารถแบกรับน้ำหนักได้ 12 เท่าของตัวมันเอง และถ้าจะต้องลากอะไรสักอย่าง ก็สามารถลากของที่หนักถึง 200 เท่าของตัวมันได้ด้วย

เป็นเจ้าสัตว์จอมพลังไม่แพ้สัตว์ตัวอื่นๆเลยนะคะ แถมยังเป็นสัตว์ที่มีเชื้อสายแก่พอกับเจ้าไดโนเสาร์อีก เริ่มเป็นสัตว์ที่น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ แล้วเราจะมาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกันค่ะ