• บริษัท นานมี จำกัด
  • โรงเรียนสอนภาษานานมี
  • สำนักพิมพ์ ทองเกษม
  • ร้านหนังสือจีนนานมี
Thongkasem Publishing
  • HOME
  • ABOUT
    THONGKASEM
  • NEWS&
    PROMOTIONS
  • CATALOG
  • BOOKS STORE
  • E-BOOKS
  • KNOWLEDGE
  • MEMBER
    AREA

    Member Login

    Username
    Password
      
     สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน

ห้องความรู้

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สุดยอดวรรณกรรมจีน

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 4,000 ปีของจีน ซึ่งชนชาติจีนนั้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเรื่องของการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ และยังมีอารมณ์สุนทรีในการแต่งเรื่องราวให้สนุกสนานอีกด้วย และมีวรรณกรรม 4 เรื่อง ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 4 สุดยอดวรรณกรรมของจีน

 

สามก๊ก


สามก๊กเป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์จีน โดยมีเค้าโครงมาจากพงศาวดารจีนสมัยปลายราชวงศ์ฮั่น ที่แผ่นดินจีนเกิดความวุ่นวาย มีการแตกเหล่าแตกก๊กของบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ จนในที่สุดแผ่นดินจีนได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ก๊กในที่สุด

หลอกว้านจงผู้ประพันธ์นิยายเรื่องสามก๊กได้นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างแปลกใหม่คล้ายกับว่าผู้อ่านกำลังชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอยู่ เรื่องราวของสามก๊กมีหลายอรรถรสให้ผู้อ่านได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการชิงไหวชิงพริบทางการเมือง ความรัก กลศึกสงคราม จิตใจของคนซึ่งในปัจจุบันมีการนำเรื่องราวของสามก๊กมาศึกษาในหลายประเด็นได้เป็นอย่างดี

 

108 ผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซาน


สุยหู่จ้วน หรือซ้องกั๋ง หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม 108 ผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซาน เป็นวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์จีนที่เกิดจากการเล่าขานของชาวบ้านมาเรียงร้อยประพันธ์ขึ้นใหม่โดยซือไน่อัน ภายหลังได้รับการปรับปรุงอีกครั้งโดยหลอกว้านจงผู้ประพันธ์วรรณกรรมสามก๊ก

เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงปลายราชวงศ์เป่ยซ่ง พระเจ้าซ่งฮุยจงไม่ใส่ใจบริหารงานบ้านการเมือง เป็นเหตุให้ขุนนางกังฉินภายใต้การนำของเสนาบดีชั่วเกาฉิวเข้าครอบครอง และใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงประชาชนจนเกิดความเดือนร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกินกว่าคนดีจะทนนิ่งเฉยได้ บรรดาผู้กล้าจากทั่วสารทิศต่างขึ้นไปรวมตัวกันที่เขาเหลียงซาน

ตั้งกองกำลังต่อต้านอำนาจมืด “ผดุงคุณธรรมแทนสวรรค์” โดยมีผู้กล้าทั้ง 108 คนเป็นแกนนำ

 

ไซอิ๋ว

 


เป็นบทประพันธ์ของอู๋เฉิงเอิน กวีในสมัยราชวงศ์หมิง ที่แต่งเติมจินตนาการลงไปในพงศาวดารจีนสมัยราชวงศ์ถัง อันกล่าวถึงการเดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎกยังประเทศอินเดียของพระถังซัมจั๋ง จนกลายเป็นไซอิ๋ว เรื่องราวการเดินทางผจญภัยโลดโผน ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการของพระถังซัมจั๋งและบรรดาลูกศิษย์ อันได้แก่ ซุนหงอคง ตือโป๊ยก่าย และซัวเจ๋ง เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎก กลับมาเผยแผ่ยังแผ่นดินจีน นอกจากนี้ไซอิ๋วยังสอดแทรกคติธรรมต่างๆ เอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถ้าหากอ่านตีความลึกซึ้งก็ถือได้ว่าไซอิ๋วเป็นปริศนาธรรมเรื่องยาว ที่ให้เหล่าผู้สนใจสามารถศึกษาและตีความหมายของการเดินทาง ตัวละคร ตลอดจนอุปสรรรคต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย

 

ความฝันในหอแดง


เป็นนวนิยายจีนโบราณ ประพันธ์โดยเฉาเสวี่ยฉิน ยอดกวีเอกแห่งยุคในสมัยราชวงศ์ชิง ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนวนิยายขนาดยาวของจีน ด้วยเหตุที่มีลักษณะของรูปแบบการเขียนที่ลึกซึ้งกินใจและเนื้อหาที่ชวนติดตาม จึงทำให้ผู้อ่านรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ของเรื่องราวและตัวละครได้ทุกอรรถรส

เรื่องราวดำเนินโดยให้น้ำหนักไปที่โศกนาฏกรรมความรักของหลินไต้อวี้และเจี่ยเป่าอวี้อันเชื่อมโยงถึงตระกูลใหญ่ในสมัยนั้น รายล้อมไปด้วยตัวละครอีกมากมายหลายบทบาทที่แตกต่างและโดดเด่น สะท้อนทั้งความรัก ความขัดแย้ง อำนาจและอิทธิพล ตลอดจนความรุ่งโรจน์และความเสื่อมถอยของระบบศักดินา อีกทั้งยังสอดแทรกสภาพสังคมและวัฒนธรรมในยุคสมัยนั้นตลอดทั้งเรื่อง

วรรณกรรมยอดเยี่ยมที่ได้รับการยกย่องเป็น 4 สุดยอดวรรณกรรมของจีน มีการแปลออกเป็นหลายภาษามากมายไปทั่วโลก และยังมีการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ หรือการ์ตูน เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านสามารถที่จะเข้าถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ได้โดยง่ายกว่าเดิม

เขียนเมื่อวันที่ เวลา 17:12:59 อ่านบทความนี้

ป้ายกำกับ วัฒนธรรม
วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นกที่โผบินในน้ำ

                หากเราพูดถึงนก ก็มักจะนึกถึงสัตว์ที่สามารถโบยบินอยู่บนท้องฟ้าได้ แต่นกบางตัวมันก็ไม่สามารถใช้ชีวิตบนท้องฟ้าได้นะ

                โดยเจ้านกที่ไม่สามารถบินได้นั้นจะจัดอยู่ในกลุ่ม Sphenisciformes ซึ่งสมาชิกในกลุ่มนนี้ก็จะมีลักษณะไปในทางเดียวกันคือ

มีปีกแต่บินไม่ได้ และเป็นนกน้ำ

เช่น นกกระจอกเทศ (ostrich) นกเรีย (rhea) นกอีมู (emu)  นกคาสโซวารี (cassowary) นกมัว (Moa) ซึ่งตอนนี้สูญพันธุ์ไปแล้ว และนกกีวี (Kiwi)เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่แล้วนกที่บินไม่ได้มักจะอาศัยอยู่ในเกาะซึ่งไม่มีสัตว์นักล่า เมื่อไม่มีผู้ล่าเลยไม่ต้องหนี ดังนั้น นกที่บินไม่ได้หลายชนิดจึงเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาอยู่บนพื้น หรือในน้ำ และสูญเสียความสามารถในการบินไปในสุด 

 

                เจ้านกเพนกวินก็เหมือนกัน มันก็เป็นสัตว์มีปีกที่บินไม่ได้บนฟ้า แต่โบยบินในน้ำ

 

                ธรรมชาติทำให้เจ้าเพนกวินแปลงร่าง.... ให้พวกมันสามารถเดิน วิ่ง กระโดดและปีนบนก้อนน้ำแข็งแสนลื่นได้อย่างดี

                นิ้วเท้ามีพังพืดและมีเล็บที่แข็งแรงใช้สำหรับว่ายน้ำ ส่วนหางไว้ใช้เป็นหางเสือ และใช้ทำให้ก้อนน้ำแข็งแตกได้ง่าย นกเพนกวินมีขนสั้น ๆ ปกคลุมตัว ปลายขนจะคลุมทับกันแน่นคล้ายกระเบื้องมุงหลังคาสามารถกันน้ำได้  และยังและทำให้ร่างกายอบอุ่นอีกด้วย และมีปีกที่ไม่ใช่บินแต่ใช้แทนครีบสำหรับช่วยว่ายน้ำ

ปกติแล้วนกทั่วไปจะต้องมีกระดูกที่กลวงเบา เพื่อให้พวกมันบินได้ แต่เจ้าเพนกวินนั้นต่างออกไป พวกมันมีกระดูกที่หนักมากๆซึ่งช่วยให้พวกมันอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน เวลาดำน้ำลงไปหาอาหารซีฟู้ดอย่างพวกปลา หรือปลาหมึก

โดยเฉพาะเจ้านกเพนกวินจักพรรดิสามารถอยู่ใต้น้ำได้ถึง 15 นาทีเลยทีเดียว

ถึงเจ้านกเพนวกวินจะไม่ได้โบยบินบนฟ้าเหมือนเพื่อนๆ แต่มันก็สามารถโบยบินในน้ำในโลกที่เพื่อนน้อยตัวจะมีโอกาสได้เห็นนั่นเอง

 

เขียนเมื่อวันที่ เวลา 11:06:33 อ่านบทความนี้

ป้ายกำกับ ความรู้ทั่วไป
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สวัสดีโลกใบใหม่

ออกจากไข่

ลูกนกนั้นจะต้องหาทางออกจากไข่ด้วยตนเอง พวกมันจะใช้ฟันเจาะเปลือกไข่

 

ไม่ใช่ปาก แต่เป็นฟัน

 

ฟัน (egg-tooth)ของพวกมันนั้นงอกอยู่บริเวณปลายปากบน เจาะเปลือกไข่จนแตก แต่ฟันนั้นก็อยู่กับพวกมันได้ไม่นาน เพราะฟันเจาะเปลือกไข่นั้นจะหายไปเมื่อลูกนกโตขึ้น

แต่กว่าจะออกจากไข่ออกมาได้นั้นก็ต้องใช้เวลา .. เพราะพวกมันจะต้อง

 

ใช้ฟันเจาะเปลือกไข่เป็นรู                     เคลื่อนตัวออกมาค่อนตัวและเริ่มเห็นขา            หลุดออกมาจากไข่ทั้งตัวตายังไม่ลืมและขนเปียก                ขยับตัวเดินเตาะแตะสองสามก้าว

 

 

 

แต่ละตัวก็จะใช้เวลาเจาะเปลือกไข่ออกมาไม่เท่ากัน ตัวที่แรงน้อยหรืออ่อนแอเสียหน่อยอาจจะต้องใช้เวลามากถึงสองชั่วโมงนับตั้งแต่เอาปากกระเทาะเปลือกออกมา แต่ถ้าบางตัวแข็งแรงมากๆนั้น เพียงสิบนาทีก็สามารถออกมาจากเปลือกไข่ได้แล้ว

 

ปกป้องสมาชิกใหม่ของครอบครัว

พ่อแม่นกต้องคอยดูแลปกป้องและคุ้มครองลูกนกทันทีที่ลูกนกออกจากไข่

 

หากรังของมันอยู่บนพื้น ....  พ่อแม่นกจะคาบเปลือกไข่ไปทิ้งให้ไกลๆจากบ้านของมัน เพราะด้านในของเปลือกไข่ที่ถูกเจาะแตกออกมานั้นมีสีขาวเด่นชัด ทำให้ศัตรูสังเกตเห็นง่ายและอาจจะทำอันตรายลูกนกได้

 

แต่ถ้าบางสายพันธ์ที่เจ้าลูกนกแข็งแรงสามารถออกเดินตามพ่อแม่ไปได้ทันทีที่ออกจากไข่ พ่อแม่นกจะไม่สนใจเปลือกไข่ เพราะพวกมันจะย้ายบ้านไปที่อื่นแทนนั่นเอง

 

อาหารสำหรับลูกนก

ของโปรดของเจ้านกตัวน้อยคืออาหารที่มีโปรตีนสูง เพราะจะช่วยให้เจ้าลูกน้องเติบโตได้เร็วขึ้นถึงแม้ว่าเจ้านกสายพันธ์นั้นจะกินพวกเมล็ดพืชเป็นอาหารก็ตาม แต่ตอนเด็กๆมันจะต้องได้ลิ้มรสเจ้าหนอนดุ๊กดิ๊ก หรือแมลงตัวเล็กๆ จนกว่าจะโตพอจึงจะกลับไปเป็นมังสวิรัติกินเมล็ดพืชหรือผลไม้เหมือนพ่อและแม่ของมัน

 

ทันทีที่ลูกนกออกจากไข่ พ่อแม่นกจะมีงานยุ่งตลอดทั้งวัน เพราะเมื่อลูกนกหิว พวกมันจะส่งเสียงร้อง กระพือปีก ยืดคอ และอ้าปากรอรับอาหาร  พ่อแม่นกต้องใช้เวลาทั้งวันบินไปหาอาหารมาป้อนลูกนกที่หิวโหยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพ่อนกแม่นกจะต้องทำอย่างนี้อยู่หลายอาทิตย์เลยทีดียว

 

จัดการกับเหล่าศัตรู

พ่อแม่นกเกือบทุกชนิดคอยเฝ้าปกป้องลูกนกอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีศัตรูเข้ามาใกล้พ่อแม่นกจะรีบหาทางออกเพื่อปกป้องลูกน้อยของมันเช่นการขับไล่ พรางตัวจากศัตรู หรือหนี

 

นกกระแตแต้แว้ดจะกลายเป็นนักแสดงตัวยง เมื่อพบกับศัตรูในขณะที่มีลูกน้อยอยู่ด้วย เพราะพ่อแม่นกจะแกล้งทำเป็นบาดเจ็บดึงดูดความสนใจจากศัตรู เมื่อลูกนกหลบหนีไปยังที่ปลอดภัยแล้ว พ่อแม่นกก็จะรีบตามไปสบทบนั่นเอง

 

แต่บางตัวก็เป็นนักวิ่งนะ เช่น แม่เป็ดให้ลูกขี่หลัง แม่ไก่วิ่งนำให้ลูกวิ่งตาม ^^

นอกจากพ่อแม่จะดูแล เจ้าลูกนกตัวเล็กก็จะต้องดูแลตัวเองด้วยเหมือนกันนะ พวกมันเลือกที่จะเงียบอยู่ในรัง หรือถ้าบางชนิดที่รังอยู่กับพื้น พวกมันก็จะแกล้งทำเป็นนอนตาย เมื่อศัตรูเผลอจึงวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

 

 

เครดิตภาพนกกระแตแต้แว้ด  http://www.pbase.com/me_photoshots/nesting_record_of_red_wattled_lapwing

เขียนเมื่อวันที่ เวลา 09:19:00 อ่านบทความนี้

ป้ายกำกับ นิทานวิทยาศาสตร์,นิทาน,สำนักพิมพ์ทองเกษม,หนังสือสำหรับเด็ก,นิทานเยาวชน, นก,ความรู้ทั่วไป
วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เมื่อพ่อนกแม่นกกำลังจะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัว

เริ่มต้นจากไข่

ก่อนจะเป็นเจ้านกตัวเล็กๆนั้น พวกมันจะต้องอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆ รูปทรงยาวรี ข้างหนึ่งป้านกว่าอีกข้าง ซึ่งแต่ละสายพันธ์ก็มีลักษณะรูปร่างต่างกันไปเพื่อเอื้อการใช้ชีวิตของนกในแต่ละสายพันธ์ เช่นไข่ของเจ้านกอีแจว ที่จะมีลักษณะแหลมข้างหนึ่ง ป้านข้างหนึ่ง ทำให้ไข่กลิ้นเป็นวงกลม ไม่ตกจากรังของมันที่สร้างเอาไว้อยู่เหนือน้ำ

 

นอกจากนี้รูปร่างแล้ว เปลือกไข่เองก็แตกต่างกัน
มีทั้งแบบผิวเรียบมันแบบไข่เป็ด และผิวหยาบด้านแบบไข่ไก่

ไข่มีทั้งสีเดียวและหลายสี

มีลายขีด จุดประหรือแถบ แตกต่างกันไป อย่างพวกนกที่วางไข่บนพื้นดิน เช่น นกตบยุง นกกระแตแต้แว้ด ไข่ก็จะมีคล้ายกับสภาพแวดล้อม คือมีลายสีเนื้อ น้ำตาล หรือเทาเพื่อให้กลมกลืนกับพื้นดินและใบไม้แห้ง เพื่อช่วยพรางไข่จากศัตรู

ส่วนจำนวนการวางไข่นั้น นกแต่ละชนิดวางไข่จำนวนต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและอาหาร ถ้ามีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ นกจะวางไข่หลายใบ แต่ถ้าอาหารขาดแคลน นกจะวางไข่จำนวนน้อยลง ยิ่งถ้าเป็นนกตัวใหญ่แล้วล่ะก็จำนวนไข่มันก็ลดน้อยลงกว่าเจ้านกขนาดเล็กๆเสียอีก

 

ให้ความอบอุ่นแก่เจ้านกน้อยที่กำลังลืมตาดูโลก

กว่าเจ้าไข่จะเปิดออกมาให้เจ้านกน้อยออกมาเผชิญโลกนั้น แม่นกจะต้องประคมประหงมให้เจ้าไข่นี้ให้มีอุณหภูมิ 34 องศาเซลเซียส โดยใช้บริเวณท้องของมันซึ่งขนหลุดร่วงเป็นหนังเปลือยเหลือเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงช่วยถ่ายเทความร้อนจากตัวแม่นกให้แก่ไข่ เราจะเรียกท้องส่วนนั้นว่า “แผ่นฟักไข่”

 

แต่สัตว์ปีกบางชนิดก็ไม่มีแผ่นฟักไข่ เช่น เป็ด พวกมันก็จะดึงขนตรงท้องและตรงหน้าอกมาไว้ในรังเพื่อสร้างความอบอุ่นและรักษาอุณหภูมิให้กับไข่

 

แล้วถ้าสัตว์ปีกตัวนั้นไม่มีขนล่ะ พวกมันทำอย่างไร

 

พวกมันก็จะใช้เท้าที่มีแผ่นฟังผืดให้เส้นเลือดที่มีอยู่หนาแน่นบนแผ่นพังผืดช่วยถ่ายเทความร้อนสู่ไข่ หลักการเหมือนกันเลย แค่เปลี่ยนจากแผ่นอกเป็นแผ่นพังผืดนั่นเอง

เรื่องราวของการฟักไข่ยังมีมากกว่านั้น นอกจากให้ความอบอุ่นแล้ว ระหว่างฟักไข่นั้น พวกมันจะต้อฃองพลิกไข่อยู่เสมอเพื่อให้ไข่ได้รับความร้อนทั่วทั้งใบ ถ้าแสงแดดร้อนเกินไปพวกมันก็จะต้อง บังแดดไม่ให้ส่องลงมาถูกไข่ บางครั้งอาจต้องนำน้ำมาพรมไข่ด้วยถ้าอากกาศร้อนเกินไป

เพราะการเพิ่มหรือลดอุณหภูมิในการฟักไข่มีผลให้ไข่ฟักเร็วหรือช้าตามไปด้วย

การฟักไข่นั้นจะต้องใช้เวลาตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยส่วนมากแล้วแม่นกจะทำหน้าที่ฟักไข่ และพ่อนกจะหาอาหารและช่วยผลัดเข้าไปฟักไข่เป็นบางเวลา

เมื่อวางไข่ใบสุดท้าย แม่นกจะเริ่มฟักไข่ เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ไข่ทุกใบก็จะฟัก

 

ยินดีต้อนรับนะเจ้านกน้อย 

เขียนเมื่อวันที่ เวลา 15:15:47 อ่านบทความนี้

ป้ายกำกับ นิทานวิทยาศาสตร์,นิทาน,สำนักพิมพ์ทองเกษม,หนังสือสำหรับเด็ก,นิทานเยาวชน, นก,ความรู้ทั่วไป
Prev1. . .13 14 15 16 17 Next
  • หน้าแรก
  • |
  • เกี่ย่วกับสำนักพิมพ์
  • |
  • ข่าวสาร & โปรโมชั่น
  • |
  • หนังสือ
  • |
  • หนังสือขายดี
  • |
  • หนังสือใหม่
  • |
  • สมาชิก
  • |
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
©2012-2021 สำนักพิมพ์ ทองเกษม. All right reserved.
Power by NAN MEE Co., Ltd.
ที่อยู่สำนักพิมพ์ ติดต่อเรา
สำนักพิมพ์ ทองเกษม
เลขที่ 146 ถนนสาทรเหนือ
แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500

E-Mail

 editor@thongkasem.com

Telephone

 0 2648 8000

Facebook

 www.facebook.com/thongkasem

Twitter

 @Thongkasem_team